โดย สมาพร คล้ายวิเชียร
ภาพเหมือนตนเอง ผลงานเลโอนาร์ดโด ดา วินซี

เลโอนาร์ดโด ดา วินซี (Leonardo da Vinci ค.ศ.1452-1519) เป็นศิลปินสมัยฟื้นฟู ศิลปวิทยาหรือเรอนาซอง เกิดวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452 ที่หมู่บ้านอันชิอาโน่ เมืองวินชี่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับรัฐฟลอเรนซ์ บิดาเป็นนักกฎหมายชื่อเปียโร ดา วินซี (Messer Piero Fruosino di Antonio da Vinci) ส่วนมารดาเป็นชาวชนบทชื่อแคธาริน (Caterina) บิดาและมารดาไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานตาม ประเพณีทางศาสนา ดังนั้นจึงทำให้เลโอนาร์โดมีสภาพเป็นบุตรนอกกฎหมายต้องอยู่กับมารดา ในหมู่บ้านจนถึงอายุ 5 ขวบ จากนั้นก็ไปอยู่กับครอบครัวของบิดาที่เมืองฟรานซิโกเนื่องจากบิดาของ เลโอนาร์ดโด เห็นว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จึงส่งเลโอนาร์ดโดไปฝึกงาน ด้านศิลปะกับ อันเดรอา เดล เวร์รอคคิโอ (Andrea del Verrocchio) เป็นเวลา 6 ปี โดยมีหน้าที่เป็นทั้ง ศิษย์และผู้ช่วย จากนั้นเขาก็ไปอยู่กับสมาคมเซนต์ลุก ซึ่งเป็นสมาคมอาชีพของเภสัชกร แพทย์และ ศิลปิน เลโอนาร์ดโดรับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะผู้รอบรู้ในศาสตร์ต่างๆ หลายสาขาอย่างลึกซึ้ง อาทิเช่น จิตรกรรม ประติมากรรม วิศวกรรม แพทย์ และวิทยาศาสตร์

เลโอนาร์ดเป็นนักบันทึก เขาจะบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ศึกษาด้วยวิธีการวาดเส้น ซึ่งในที่นี้ขอยกตัวอย่างผลงานวาดเส้นชิ้นเยี่ยมของเขา ชื่อ “The Virgin and Child”

The Virgin and Child

ภาพ The Virgin and Child ขนาด 139×101 เซนติเมตร เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1499 -1500 ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ National Gallery กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นภาพวาดเส้น ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแม่พระกำลังอุ้มเด็กและเซนต์แอนนั่ง ข้างๆ มีเด็กผู้ชายเกาะเข่าของเซนต์แอน การจัดวางองค์ประกอบของภาพจะจัดวางให้อยู่ภายในกรอบสามเหลี่ยมรูปปิรามิด ซึ่งรูปทรง เช่นนี้สามารถกำหนดให้มีอารมณ์สงบและมีความแน่นอน ในขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มรสชาติ ให้ดูสนุกตาเพิ่มขึ้น เลโอนาร์โดได้นำเสนอบางสิ่งบางอย่างให้ดูขัดแย้งกัน โดยเพิ่มการแสดงท่าทาง และร่างกายของอวัยวะส่วนต่างๆ ให้เคลื่อนไหวและมีลีลาอันสง่างาม ส่วนแสงและเงาในภาพ เลโอนาร์โดจะใช้แสงสลัวๆ ส่องออกมาจากด้านหน้าผู้ชม โดยแรเงาให้มีน้ำหนักอ่อนแก่ดูนุ่มนวล มีลีลาราวกับน้ำหนักของเสียงดนตรี

สำหรับกลวิธีที่เลโอนาร์โดใช้ในการวาดเส้นภาพ The Virgin and Child เป็นการวาดด้วย แท่งถ่านและสีชอล์กขาว โดยใช้การแรเงาแบบสฟูมาโต (sfumato) ที่เป็นหลักทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ในเรื่องความหนาแน่นของอากาศ วัตถุใดก็ตามเมื่ออยู่ใกล้ตาก็จะเห็นได้ชัดเจน ครั้นไกลออกไปก็จะ ถูกอากาศบดบัง ยิ่งไกลเท่าไหร่โอกาสที่จะถูกบดบังก็ยิ่งมากขึ้นเพิ่มทวีคูณ จนกระทั้งวัตถุนั้นดู เลือนลางจางหายไปในที่สุด ซึ่งกลวิธีสฟูมาโตนี้จะใช้แรเงาหรือระบายสีให้ดูมีมิติใกล้ไกล มีบรรยากาศที่คล้ายกับเมฆหมอกปกคลุ่มเป็นชั้นๆ เมื่ออยู่ใกล้ตาจะมองเห็นชัดเจน ครั้นเมื่อไกลตา ออกไปความชัดเจนก็ค่อยลางเลือนคล้ายกับมีเมฆหมอกเป็นม่านปิดบัง

เลโอนาร์โด เป็นศิลปินที่สามารถนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้าผสมผสานกับความรู้ทาง ด้านศิลปกรรมอย่างดีเยี่ยม โดยนำเอาความรู้ทางกายวิภาคศาสตร์ ความงามในสัดส่วนของร่างกาย มนุษย์ หลักในการมองกับการรับรู้ทางจิตวิทยา หลักทฤษฎีทัศนียวิทยา และหลักการแสดงออกอื่นๆ เหล่านี้มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานวาดเส้นภาพ The Virgin and Child และในผลงานชิ้นอื่นๆ อยู่เสมอ จึงทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นจิตกรเอกผู้มีความสามารถจำลองมนุษย์ให้มีชีวิตอยู่ ในบรรยากาศได้เหมือนจริงตามที่ปรากฏในธรรมชาติ

Leave a Reply